ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงสู่ “อุตสาหกรรม 4.0” ทำให้โรงงานจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและปรับปรุงกระบวนการทำงาน ซึ่งรวมถึงการเก็บข้อมูลที่ถือเป็นสิ่งสำสำคัญของการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจให้แม่นยำ อย่างไรก็ตามการจัดการข้อมูลในหลายโรงงานยังคงเผชิญกับปัญหาเพราะส่วนมากยังใช้การเก็บข้อมูลด้วยกระดาษ ซึ่งมีข้อจำกัดหลายประการและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประสิทธิภาพโรงงานในระยะยาว iCube จึงยกตัวอย่าง 3 ปัญหาหลักที่เกิดจากการเก็บข้อมูลในโรงงานอุตสาหกรรม
1. การกรอกข้อมูลผิดพลาด 88%
หนึ่งในปัญหาหลักที่พบได้บ่อยจากการเก็บข้อมูลในรูปแบบกระดาษ คือ การกรอกข้อมูลผิดพลาด โดยเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือการกรอกข้อมูลผิดพลาดจากการเร่งรีบ ความไม่รอบคอบ หรือความผิดพลาดในการอ่านข้อมูลจากเอกสารเก่า ซึ่งจากทั้งหลายสาเหตุเหล่านี้ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการผลิตรายวันหรือรายชั่วโมง หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นข้อมูลที่ได้จะไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลต่อการวิเคราะห์ข้อมูลในภายหลังและการตัดสินใจในกระบวนการผลิต
2. อ่านไม่ออก 10%
เมื่อใช้การเก็บข้อมูลบนกระดาษปัญหาที่ตามมาต่อคงเลี่ยงไม่ได้กับความไม่ชัดเจนจากการจด เนื่องจากลายมือที่อ่านยากใช้ภาษาที่ต่างกันระหว่างผู้กรอกข้อมูล หรือการกำหนดฟอร์แมต รูปแบบของข้อมูลให้เป็นไม่มาตรฐาน ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำข้อมูลไปใช้งาน ผู้ที่รับผิดชอบต้องใช้เวลามากในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้กระบวนการทำงานขาดความต่อเนื่องและอาจเกิดการตีความที่ผิดพลาดได้
3. ข้อมูลหาย 2%
ปัญหาสุดท้ายจากการเก็บข้อมูลในกระดาษที่ iCube นำมายกตัวอย่างนั้นคือ ข้อมูลสูญหาย ซึ่งอาจดูเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อข้อมูลสำคัญหายไป แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานของโรงงานได้ในระยะยาว โดยมักเกิดจากกระดาษชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลายจากอุบัติเหตุ ทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้ไม่สมบูรณ์หรือสูญหายไป นอกจากนี้การกระจายตัวของข้อมูลก็เป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูล เนื่องจากการจัดเก็บในรูปแบบเอกสารจะแยกตามแผนกหรือพื้นที่ เช่น ข้อมูลการผลิตอาจถูกเก็บในโกดัง ข้อมูลการตรวจสอบคุณภาพอาจอยู่ในห้องควบคุม หรือข้อมูลคำสั่งซื้ออยู่ในแผนกจัดซื้อ การแยกเก็บข้อมูลเช่นนี้อาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการติดตามและรวบรวม
การเก็บข้อมูลในรูปแบบกระดาษยังคงเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของโรงงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดในการกรอกข้อมูล ข้อมูลที่อ่านไม่ออก หรือการสูญหายของข้อมูล ปัญหาเหล่านี้ล้วนเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานและลดศักยภาพของการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจในกระบวนการผลิต
การปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นทางออกที่ช่วยลดข้อผิดพลาด สร้างมาตรฐานในการจัดเก็บข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้โรงงานสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและรองรับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง
